วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

งานวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับกลางวัน🔍

  1. Waterhouse et al. (2001) ศึกษาบทบาทของการงีบหลับกลางวัน ต่อการเพิ่มความจำของระบบประสาท และประสิทธิภาพการวิ่งระยะสั้นในกลุ่มผู้ที่มีภาวะอดนอนระดับปานกลางปานกลาง โดยให้กลุ่มตัวอย่างนอนในเวลา 23.00 – 03.00 น. และให้งีบกลางวัน 30 นาที ในช่วงเวลา 13.00 – 13.30 น. ผลการวิจัยพบว่า การงีบหลับกลางวันสามารถเพิ่มความตื่นตัว สมรรถภาพทางจิตใจ และประสิทธิภาพในการวิ่งระยะสั้นในภาวะอดนอนระดับปานกลาง
  2. James (2006) ศึกษาผลของการงีบหลับและบริโภคกาแฟ เพื่อจัดการภาวะนอนน้อยระหว่างคืนที่ต้องการมีการควบเวร ผลการวิจัยพบว่า ท้ังการงับหลับ และบริโภคกาแฟ สามารถเพิ่มในเรื่องของการตื่นตัว และประสิทธิภาพการทำงานของคนทำงานเวรกลางคืน และการประยุกต์รวมทั้งการงีบหลับเข้ากับการดื่มกาแฟ ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เป็นการเพิ่มความตื่นตัวและประสิทธิภาพร่างกายของคนที่ทำงานเวรกลางคืนเป็นความสามารถที่ท้าทาย แม้ว่าจะมีการนอนกลางวันที่เพียงพอ " การงีบหลับก่อนที่จะทำงานร่วมกับการดื่มกาแฟในขณะที่มีการทำงาน เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการคงไว้ซึ่งความตื่นตัวให้คงอยู่สำหรับคนที่ต้องการทำงานในเวรกลางคืน "

เคล็ดลับนอนกลางวัน
1. ช่วงเวลาที่ควรนอนกลางวัน ควรงีบหลับในช่วงเวลา 13.00-15.00 นาฬิกา หรือก็คือเวลาบ่ายโมง         ถึงบ่าย 3 โมง เนื่องในช่วงขณะนั้น เป็นช่วงเวลาที่ระดับพลังงานในร่างกายของเราอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ หรือต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ และเป็นช่วงเวลาที่ระดับของฮอร์โมนเมลาโทนีนนั้นเพิ่มสูงสุด จึงทำให้เรามีความรู้สึกว่าร่างกายไม่สดชื่น หรือมีการตื่นตัวค่อนข้างน้อย ฉะนั้นช่วงเวลานี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การงีบหรือการนอนหลับพักผ่อนมากที่สุด
2. ควรที่จะหลีกเลี่ยงการงีบหลับก่อนช่วงเวลาที่เราจะเข้านอน หรือเวลาก่อนเข้านอน 3 ชั่วโมง เพราะการนอนหลับในช่วงนี้ อาจจะส่งผลต่อการรบกวนการนอนหลับในช่วงเวลาตอนกลางคืนได้ ฉะนั้นหากเราไม่ได้งีบหลับในช่วงเวลากลางวันเราก็ไม่ควรที่งีบหลับในช่วงตอนเย็น ซึ่งหากเป็นไปได้ให้เราพยายามฝืน หรือหากิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกหายง่วง
3. ระยะเวลาในการนอน ควรจะใช้เวลาในการงีบหลับไม่เกิน 30 นาที และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแก่การงีบเพื่อให้การงีบหลับให้มีประสิทธิภาพูดสูงที่สุดก็จะอยู่ที่เวลาประมาณ 15-20 นาที เพราะถ้าหากเรางีบหลับนานเกินกว่านั้น จะทำให้การงีบหลับของเรากลายเป็นการนอนหลับ หรือหลับลึกได้ในที่สุด และหากเรางีบหลับนานเกินไป ก็จะทำให้เรามีความรู้สึกง่วง เหนื่อย เพลีย ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังทำให้ความสดชื่นของเราลดลงไปยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
4. ควรที่จะตั้งนาฬิกาปลุกในขณะที่เราต้องการจะงีบหลับ เพื่อให้เราตื่นได้ทัน และยังสามารถคลายความกังวลที่ว่า เราจะนอนหลับนานเกินไป หรือกลัวว่าจะตื่นไม่ทัน ซึ่งเป็นสาเหตุรบกวนการงีบหลับของเรา ทำให้เรางีบหลับไม่สนิทได้ ฉะนั้นก่อนที่เราจะงีบหลับ ก็ควรตั้งนาฒิกาปลุกไว้ประมาณ 20 นาที หรือไม่เกิน 30 นาที
5. ควรที่จะเลือกหรือสร้างสภาพแวดลอมที่เหมาะกับการงีบหลับ อย่างการงีบหลับในที่ที่ไม่มีแสงหรือทำการปิดไฟ ปิดม่าน ใส่หน้ากากปิดตาในขณะที่งีบ และหากเราสามารถทำได้ก็จะมีผลช่วยให้เราสามารถงีบหลับได้เร็วและนอนหลับสนิทมากขึ้น

งานวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับกลางวัน ⏳ 🔍 Waterhouse et al. (2001) ศึกษาบทบาทของการงีบหลับกลางวัน ต่อการเพิ่มความจำของระบบประสาท และประสิทธ...